วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิธีการ สแกน Drive:D

ลักษณะของ Antivirus ที่ดี
เวลากำลัง scan ฆ่าไวรัส ไม่ต้อง กลับมาถามผู้ใช้ว่า ไฟล์นี้ติดไวรัส จะทำลายไวรัสมั๊ย ไฟล์นี้ใช้งานอยู่จะลบมั๊ย เราเป็นเจ้านาย อันนี้เอามั๊ย อันนั้นทำมั๊ย เราก็รำคาญน๊ะ บางทีกด yes กด No เป็นไฟล์ระบบ windows ถูกลบ เครื่องบูตไม่ได้ งานด่วนเลยไม่เสร็จ
อย่าพูดมาก ลงมือเลย
ตามขั้นตอนครับ
1.เห็น antivirus ตัวหนึ่ง ดี ณ เวลานี้ คลิก download ที่นี่เลยครับ หรือที่ web เจ้าของโปรแกรมแต่รอนานหน่อย ที่ ที่นี่ (เพราะ download ไว้นาน
อาจใช้ไม่ได้ ) Save เอาไว้ที่ Drive D: เป็น version 8 มค. 52
2.ปิดระบบ ย้อนเวลาหาอดีต เพราะอดีตมีไวรัส ตัดกรรมมันซ่ะเลย ไปที่หน้าจอ คลิกขวาที่ รูป My Computer คลิก Poperties

                                                                                                              3.คลิกแถบ System Restore คลิก เครื่องหมายถูกที่ สี่เหลี่ยม Turn Off System Restore on all Drives.





ระบบย้อนหลังปิดไปแล้ว
4.ต่อไป ขั้นตอนการฆ่าไวรัส แค่ดับเบิลคลิก ไฟล์ที่ ดาวโหลด มาที่เก็บไว้ที่ ไดรฟ์ D ก็ แล้ว Scan ก็ จบ
ไม่มีอะไร ยาก แต่ ณ เวลานี้ เครื่องเรามีไวรัสแล้ว เราจะ scanไวรัสทำงาน ภายใต้ ระบบที่ไม่สะอาด จะดีเหรอ
ถ้าอาการ ไม่หนักมาก็เอา เลย แต่ถ้าหนัก ก็ ให้ทำงานภายใต้ Save Mode ต้อง restart boot เครื่องใหม่ ขณะที่ boot
กด F8 หลายๆ ครั้ง จะมีเมนูให้เลือก ให้เลือก save mode กด enter จนเข้า save Mode ซึ่งเป็น Mode ที่ไวรัสไม่ทำงาน
ก็สามารถ scan ได้เลย
5.ขั้นตอนการ Scan เปิด My computer เปิด drive D: จะเห็นไฟล์ที่ ดาวโหลดมา ดับเบิลคลิก ให้ทำงานได้เลย หลังดับเบิลคลิกแล้ว ต้อง รอนิดหนึ่ง

กดปุ่ม Accept ยอมรับ เงื่อนไข
..
แล้วเข้าสู่ หน้าต่าง พร้อมฆ่า แต่อย่าเพิ่งฆ่า (บาป) ต้องดูว่า ขณะนี้เครื่อง Run แอนตี้ไวรัสอื่นอยู่มั๊ย
ถ้าทำงานอยู่ ให้ stop ก่อน (ส่วนใหญ่อยู่ล่างขวา คลิกขวาจะมีให้ stop หรือ disable ) เมื่อ stop เสร็จต้องสั่งให้ Norman Scan ไวรัสทันที อย่าให้เป็นสูญญากาศนาน
เพราะไวรัส จะแย่งลงมือก่อน
เมื่อกด ปุ่ม Scan ในช่อง Scan Result เป็น การรายงานการฆ่า ถ้าขึ้นสีแดง แสดงว่ามีไวรัสที่สำคัญที่ฆ่าแล้ว

ข้อดี คือ มันไม่ถามเราว่า ไฟล์นี้ลบมั๊ย ทั้งที่ ไฟล์นั้นมันก็ ข้าผู้น้อยสมควรตาย (ไฟล์ขยะ) แล้วก็ตาม
ร้องเพลง รอ สัก ชั่วโมงมั้ง กว่าจะเสร็จ แล้วแต่ปริมาณไฟล์ในเครื่อง
ถ้าอยากหยุดก็ กดปุ่ม Stop ได้ แต่อย่าเลยครับ

6.เมื่อ ฆ่าหมดแล้ว ทีนี้ การป้องกันตนเอง จากไวรัส ทั้งสองตัวที่แนะนำ ลงเสร็จแล้วต้อง Run ลองดูโดยที่เครื่องไม่ restart ก่อน
6.1 ลง antivirus ที่ฆ่าแล้วได้ผล Download ที่นี่
6.2 ลง antivirus จากการต่อ Handry Drive ที่ฆ่าแล้วได้ผล Download ที่นี่

7.ถ้า Avast ฆ่าไม่ได้ ลอง Fix ไวรัสจาก โปรแกรมนี้ หรือ ตัวนี้ Scan ผ่านเนต
8.ถ้าเจอ VmwareService ให้ run regedit => HKEY_LOCAL_MECHINE => system => CurrentControlSet =>service =>VmwareService ลบซ่ะ
8.1 ที่ folder c:\windows\system\ลบ vmwhereservice.exe

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น